วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

อโปโลเกีย (APOLOGIA) ตอนที่ 2

โสรกราตีสแก้ข้อกล่าวหา โสกราตีสใช้วิธีการสอบถามกับโจทก์ซึ่งก็คือเมเลตัส เหมือนกับที่เคยๆ ทำมาในอดีต แล้วจึงสร้างชุดข้อสรุปเป็นระยะๆ โดยมีการเปรียบเปรยเชิงประชดประชัน (Irony) แล้วสร้างข้อสรุปตามวิธีการแบบอุปนัย (Induction) ดังเช่นในบทสนทนาส่วนหนึ่ง กล่าวว่า
โสกราตีส : ท่านว่าท่านค้นพบอิทธิพลอันทำให้เด็กเสีย อิทธิพลเหล่านั้นอยู่ที่ข้าพเจ้านี่ และท่านก็ขอให้สุภาพชนนี้พิจารณาโทษข้าพเจ้า ขอให้ท่านจงบอกเขาเหล่านี้ว่าใครเล่าที่ทำให้เด็กของเราดีขึ้นเมเลตัส ท่านไม่กระดิกลิ้นเสียแล้วหรือ จึงไม่ตอบ ท่านไม่รู้ดอกหรือว่าการกระทำเช่นนี้ มีผลเสียต่อท่านอย่างพอเพียง ที่จะพิสูจน์คำของข้าพเจ้าว่าท่านไม่สนใจเรื่องนี้เลย บอกข้าพเจ้าสิสหาย ว่าใครเป็นคนทำให้เด็กเป็นคนดี
เมเลตัส: กฎหมาย”
โสกราตีส :ท่านที่รัก ข้าพเจ้าไม่ได้ถามท่านเช่นนั้น ข้าพเจ้าให้ท่านบ่งชื่อ บุคคล ซึ่งมีกิจที่ต้องรู้กฎหมายเป็นประเดิม”
เมเลตัส: ก็บุคคลเหล่านี้นะสิโสกราตีส คนที่มารวมอยู่เพื่อตัดสินคดีนี้แหละ
โสกรตีส : ท่านหมายความว่าคนพวกนี้สามารถสั่งสอนคนหนุ่มให้ดีขึ้นได้ กระนั้นหรือ
เมเลตัส: แน่นอน”
โสกราตีส : ท่านหมายความตลอดทุกคนในคณะผู้พิพากษาหรือว่าบางคน
เมเลตัส: “หมดเลย”
โสกราตีส : “วิเศษ ช่างหาผู้ชูชุบอุปถัมภ์ได้มากจริง คนที่มาฟังคดีที่ศาลนี่ละจะมีอิทธิพลทำให้เด็กดีขึ้นด้วยหรือเปล่า”
เมเลตัส: “มี”
โสกราตีส : “วุฒิสมาชิกล่ะ”
เมเลตัส:  “พวกนี้ด้วย”
โสกราตีส :“ เมเลตัส สมาชิกในรัฐสภานั้นก็ย่อมไม่ทำให้เด็กเสีย หากทุกคนมีอิทธิพลทำให้เด็กดีขึ้นด้วยใช่ไหม
เมเลตัส: ใช่แน่”
โสกราตีส : ถ้าเช่นนั้นก็ดูเหมือนประชาชนชาวเอเทนทุกคน ล้วนมีอิทธิพลทำให้เด็กดีขึ้น ยกเว้นข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเท่านั้นที่ทำให้เด็กเสีย ท่านหมายความเช่นนี้ใช่ไหม”
เมเลตัส: ใช่อย่างแน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลย
โสกราตีส : นี้นับว่าท่านเห็นคุณลักษณะข้อเสื่อมอย่างยิ่งอยู่ในตัวข้าพเจ้าเป็นอันมาก เอาเถิด ขอให้ข้าพเจ้าได้ถามท่านอีกข้อหนึ่ง เอาม้าเป็นตัวอย่าง คนที่ฝึกม้าให้ดีจะต้องเป็นมนุษยชาติทั้งหมด ส่วนคนที่ทำให้เสียคือคนๆ เดียว กระนั้นหรือ หรือกลับตรงกันข้าม ว่าจำเพาะคนๆ เดียว หรือน้อยคนมากที่เข้าใจม้า คนอื่นๆ ส่วนมาก ถึงจะใช้ม้าก็ไม่ปรานีปราศรัย ม้าและสัตว์อื่นๆ ย่อมเป็นเช่นนี้มิใช่หรือเมเลตัส ความจริงย่อมเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าท่านและอนิตัสจะรับเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม ย่อมจะเป็นการดีที่คนหนุ่มของเราจะมีคนทำให้เสียแต่เพียงคนเดียว คนอื่นๆ นอกนั้นล้วนช่วยให้ดี แต่เมเลตัสท่านแสดงให้เห็นชัดแล้วว่าท่านยังไม่ได้พิจารณาคนหนุ่มของเราเลย ท่านแสดงออกอย่างแจ่มแจ้ง ว่าท่านไม่สนใจ ท่านยังไม่ได้คิดเลย แม้แต่น้อยว่า ทำไมท่านจึงเอาข้าพเจ้ามาที่นี่
โสกราตีส : ข้าพเจ้าขอให้ท่านบอกข้าพเจ้าเดี๋ยวนี้ว่าอยู่ในเมืองชั่วกับเมืองดี ที่ไหนดีกว่า ตอบเราหน่อย สหาย ไม่ใช่ปัญหาที่ยากเย็นอะไร คนชั่วย่อมทำความชั่วในเขตแขวงใกล้ๆ และคนดีทำดีมิใช่หรือ”
เมเลตัส :ใช่ แน่ละ
โสกราตีส มีใครไหมที่ชอบรัดความเสียหายยิ่งกว่าความช่วยเหลือ
เมเลตัส:ไม่มีแน่
โสกราตีส : แต่เรารู้อยู่ว่าท่านฟ้องข้าพเจ้าฐานทำให้เด็กเสีย ท่านว่าข้าพเจ้าทำโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ”
เมเลตัส: ตั้งใจ แน่นอน
โสกราตีส : จริงแท้เช่นนั้นหรือเมเลตัส คนอายุขนาดท่านฉลาดกว่าคนอายุปูนข้าพเจ้ามากนักเจียวหรือ จนท่านรู้ว่าคนชั่วย่อมทำความชั่ว คนดีย่อมทำความดี ให้แก่คนใกล้เคียง แต่ข้าพเจ้าจมลงไปในเหวลึกของความชั่วจนโง่เขลา ขนาดไม่รู้ว่า ถ้าทำให้เพื่อนร่วมชาติคนหนึ่งชั่ว ข้าพเจ้าย่อมรับความเสียหายจากเขาคนนั้น แต่ท่านก็เห็นว่าข้าพเจ้าตั้งใจทำเช่นนั้น ข้าพเจ้าไม่เชื่อท่านหรอกเมเลตัส และข้าพเจ้าก็คิดว่าไม่มีใครเชื่อท่าน ข้าพเจ้าต้องไม่ได้ทำให้เด็กเสียเลย ถ้าทำก็โดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นอันว่าท่านผิดทั้งสองกระทง หากข้าพเจ้าทำโดยไม่ได้ตั้งใจ ท่านก็ย่อมทำผิดกฎหมาย ที่เอาข้าพเจ้าเกี่ยวพันในศาลอย่างผิดๆ เช่นนี้

จากข้างต้นถือเป็นตัวอย่างที่สะท้อนว่า โสกราตีสใช้การเปรียบเปรยมาเป็นเครื่องมือในการแก้ข้อกล่าวหา พร้อมๆ กับดึงคู่สนทนาให้กลายเป็นผู้กล่าวแก้คดีให้โดยมิรู้ตัวหรือในอีกช่วงหนึ่งของการสนทนาก็เช่นเดียวกันในการแก้ข้อกล่าวหาว่า โสกราตีสสอนให้คนหนุ่มไม่นับถือเทพองค์ที่รัฐนั้นยอมรับว่าศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถือว่าโสกราตีสนั้นทำลายเด็กหนุ่มเหล่านี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น